top of page
Search

หมาไม่กินข้าว ทำอย่างไรดี? สาเหตุที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่เจ้าของควรรู้

เมื่อน้องหมาเริ่มไม่กินข้าวหรือกินน้อยลงกว่าปกติ นั่นอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่เจ้าของต้องหันมาใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะพฤติกรรมการกินอาหารเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพสำคัญมาก สุนัขส่วนใหญ่จะกินเป็นเวลาและมีความอยากอาหารค่อนข้างสม่ำเสมอ เมื่อจู่ ๆ ความอยากอาหารลดลง จึงมักบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายหรืออารมณ์ ประเด็นสำคัญคือ บางครั้งปัญหาอาจไม่แสดงออกชัดเจน เช่น ไม่มีไข้ ไม่ซึม แต่ระบบภายในเริ่มมีความผิดปกติแล้ว เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย อักเสบในกระเพาะลำไส้ หรือภาวะเครียดที่สะสมเป็นเวลานาน

สัญญาณนี้อาจยกระดับความรุนแรงได้ หากเจ้าของไม่รีบสังเกตตั้งแต่แรก เช่น น้ำหนักลดลง กล้ามเนื้อฝ่อ อาเจียน หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป การประเมินเบื้องต้นด้วยตัวเองจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะยิ่งทราบสาเหตุเร็ว การรักษาก็จะง่ายขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ได้มาก

ree

พฤติกรรมผิดปกติที่ควรสังเกต

การไม่กินข้าวอาจเกิดร่วมกับพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งช่วยบอกระดับความรุนแรง

  • ดมแล้วเดินหนี บ่งบอกไม่อยากอาหาร

  • เลียปากถี่ ๆ แสดงอาการคลื่นไส้

  • นอนมากหรือดูหมดแรง

  • เบื่อของเล่นหรือไม่สนใจคนในบ้าน

  • ท้องเสียหรืออาเจียน

  • หายใจแรง หอบ หรือตัวสั่น

  • น้ำหนักลดในเวลาไม่นาน

สาเหตุที่ทำให้หมาไม่กินข้าว (แบ่งตามระดับความรุนแรง)

สาเหตุที่ทำให้สุนัขไม่ยอมกินอาหารมีทั้งระดับเบาและระดับรุนแรง เจ้าของควรทำความเข้าใจเพื่อแยกแยะว่ากรณีใดต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์

ree

1) สาเหตุทั่วไปที่ไม่ร้ายแรง

สาเหตุเหล่านี้พบได้บ่อยและแก้ไขได้เองในหลายกรณี

  • เบื่ออาหารเดิม ๆ สุนัขบางตัวกินอาหารสูตรเดิมมานานจนรู้สึกจำเจ ทำให้ลดความสนใจลง

  • กินขนมมากไปก่อนมื้ออาหาร หากเจ้าของให้ขนมระหว่างวันเยอะเกินไป ก็ทำให้น้องหมาไม่หิวตอนมื้อหลัก

  • อากาศร้อนทำให้ความอยากอาหารลดลง โดยเฉพาะพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก บูลด็อก

  • เครียดจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนที่วางชามอาหาร ย้ายบ้าน หรือมีคนแปลกหน้ามาบ่อย

  • กลิ่นอาหารเปลี่ยนไป อาหารเปิดทิ้งไว้นานจนมีกลิ่นเหม็นหืน ก็ทำให้สุนัขปฏิเสธได้

  • ความเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน เช่น เปลี่ยนชามอาหาร เปลี่ยนกลิ่นอาหาร เปลี่ยนที่วางชาม หรือมีสมาชิกใหม่ในบ้าน

2) สาเหตุจากสุขภาพช่องปาก

ความเจ็บปวดในช่องปากเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุนัขไม่อยากกินอาหาร โดยเฉพาะอาหารเม็ด

  • ฟันผุหรือฟันแตก ฟันหักจากการกัดของแข็ง

  • มีคราบหินปูนจำนวนมาก หินปูนสะสมจนเหงือกอักเสบ

  • แผลหรือก้อนเนื้องอกในช่องปาก

 ความเจ็บปวดทำให้น้องหมากลัวการเคี้ยว จึงเลือกที่จะไม่กิน

3) สาเหตุจากระบบทางเดินอาหาร

โรคระบบทางเดินอาหารมักมาพร้อมอาการไม่กินอาหารอย่างชัดเจน

  • กระเพาะอักเสบ: มักอาเจียนบ่อย

  • ลำไส้อักเสบ: มักมีท้องเสียร่วม

  • อาหารไม่ย่อยหรือแก๊สในลำไส้มากเกินไป

  • สิ่งแปลกปลอมในท้อง: เช่น ของเล่น เศษผ้า ถุงพลาสติก ซึ่งอันตรายมากและอาจทำให้ลำไส้อุดตัน

 ปัญหาในกลุ่มนี้หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

4) โรคและภาวะที่ต้องระวัง

บางโรคมีความรุนแรงสูงและต้องรับการรักษาโดยเร็ว

  • โรคไตเรื้อรัง: ทำให้คลื่นไส้ เบื่ออาหาร

  • โรคตับ: ทำให้น้ำหนักลด ตัวเหลือง

  • โรคเลือดและการติดเชื้อรุนแรง: เช่น พาร์โว ไวรัสลำไส้อักเสบ มักมีอาเจียน ถ่ายเป็นเลือด ซึ่งอันตรายอย่างมาก

  • ภาวะปวดรุนแรง: เช่น กระดูกหัก อักเสบภายในช่องท้อง หรืออวัยวะอักเสบภายใน

  • โรคหัวใจ: ทำให้น้องหมาหอบง่ายจนไม่อยากกิน

โรคในกลุ่มนี้ไม่ควรรอให้หายเอง เพราะอาจลุกลามจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

5) ปัญหาด้านอารมณ์และความเครียด

สุนัขซื่อสัตย์และผูกพันกับเจ้าของมาก การเปลี่ยนแปลงอารมณ์สามารถส่งผลต่อการกินได้

  • กลัวเสียงดัง เช่น ฟ้าร้อง พลุ

  • ห่างเจ้าของนานผิดปกติ

  • มีสัตว์เลี้ยงใหม่เข้าบ้าน ทำให้เกิดความกังวล

  • เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมแบบรวดเร็ว

สุนัขที่เครียดอาจไม่กินอาหาร แต่หากสถาณการณ์ดีขึ้นก็จะกลับมากินปกติ

วิธีแก้ไขเมื่อน้องหมาไม่กินข้าว

หากเพิ่งเริ่มไม่กินอาหาร 1–2 มื้อ เจ้าของสามารถทดลองดูแลเบื้องต้นได้ แต่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดแต่แนะนำให้พาน้องหมาน้องแมวมาปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอเพื่อมาตรวจว่าการไม่กินอาหารเกิดจากอาการป่วยอื่น

ree

วิธีดูแลเบื้องต้นที่เจ้าของทำได้เอง

  • อุ่นอาหาร เพื่อเพิ่มความหอม กระตุ้นความอยากอาหาร

  • เติมน้ำซุปไก่อ่อน ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นและความน่ากิน

  • ลดขนมในวันนั้น เพื่อไม่ให้ท้องอิ่มเกินไป

  • ให้ดื่มน้ำเพียงพอ ป้องกันภาวะขาดน้ำ

  • จัดที่กินอาหารให้สงบ ไม่วุ่นวาย ทำความสะอาดชามอาหารให้ไม่มีคราบมัน

  • ไม่เปลี่ยนอาหารกะทันหัน เพราะทำให้ท้องอืดหรือท้องเสียได้

  • ปล่อยให้พักผ่อนเต็มที่

ควรเปลี่ยนอาหารหรือไม่?

การเปลี่ยนอาหารอาจช่วยแก้อาการเบื่ออาหารได้ แต่ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อปรับตัวกับสูตรใหม่และได้รับสารอาหารใหม่ๆ ป้องกันปัญหาลำไส้และการย่อยผิดปกติ

  • วันที่ 1–2: อาหารใหม่ 25%

  • วันที่ 3–4: อาหารใหม่ 50%

  • วันที่ 5–6: อาหารใหม่ 75%

  • วันที่ 7: เปลี่ยนเป็นอาหารใหม่ทั้งหมด

 หากเปลี่ยนเร็วเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้

ปรับพฤติกรรมอย่างไรให้สุนัขกลับมากินปกติ

  • กำหนดเวลาการกินให้แน่นอนทุกวัน ให้อาหารเป็นเวลา เช่น เช้า–เย็น กำหนดเวลาการกินมื้อละ 15–20 นาที

  • เก็บอาหารออกเมื่อหมดเวลา ไม่ปล่อยทิ้งไว้ทั้งวัน

  • เพิ่มการออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มความอยากอาหาร

  • สร้างกิจวัตรประจำวันที่ผ่อนคลาย เช่น ลูบตัว เล่นกับน้องหมา

ree

เมื่อไหร่ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

การปล่อยให้น้องหมาไม่กินข้าวนานเกิน 24–48 ชั่วโมงอาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารและขาดน้ำ โดยเฉพาะในสุนัขเด็กหรือสุนัขสูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอกว่า

อาการอันตรายที่ต้องสังเกต

  • อาเจียนหลายครั้งในวันเดียว

  • ถ่ายเหลวหรือมีเลือดปน

  • ซึมมากจนเดินไม่ไหว

  • ไข้สูง ตัวร้อน หอบ

  • ตาเหลือง หรือช่องปากซีด

  • ท้องบวมผิดปกติ 

อาการเหล่านี้เข้าข่ายภาวะฉุกเฉิน ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

ree

การวินิจฉัยของคุณหมอ

สัตวแพทย์จะตรวจเพิ่มเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น

  • ตรวจร่างกายอย่างละเอียด

  • ตรวจเลือดเพื่อดูค่าเม็ดเลือดและการทำงานของตับ–ไต

  • เอกซเรย์ช่องอกช่องท้อง

  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง

  • ตรวจช่องปากและฟัน

วิธีเหล่านี้ช่วยให้การรักษาตรงจุดยิ่งขึ้น

อาการ “หมาไม่กินข้าว” เป็นภาวะที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้จะเกิดจากสาเหตุเล็ก ๆ เช่น เบื่ออาหารหรือเครียด แต่ก็อาจเชื่อมโยงกับโรคสำคัญที่ต้องรีบรักษา การสังเกตอาการอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้น้องหมาได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง หากดูแลเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 24–48 ชั่วโมง ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การใส่ใจสุขภาพของน้องหมาในทุกวัน จะช่วยให้เขามีความสุข สุขภาพดี และอยู่เป็นเพื่อนที่แสนรักกับเราไปได้นานที่สุดค่ะ


 
 
 

Comments


bottom of page