top of page
Search

วิธีดูแลแมวเป็นเชื้อรา รู้ทันสาเหตุ อาการ การรักษา และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

  • Writer: Monthinee Jongjesdakul
    Monthinee Jongjesdakul
  • 23 hours ago
  • 1 min read
แนะนำวิธีป้องกันไม่ให้แมวกลับมาเป็นเชื้อราอีก เช่น อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิท หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดบ้าน ลดความเครียดของแมว และหลีกเลี่ยงการพาออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น
แนะนำวิธีป้องกันไม่ให้แมวกลับมาเป็นเชื้อราอีก เช่น อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิท หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดบ้าน ลดความเครียดของแมว และหลีกเลี่ยงการพาออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น

วิธีดูแลแมวเป็นเชื้อรา ที่เจ้าของควรรู้ไว้ก่อน


“โรคเชื้อราแมว” หรือที่หลายคนเรียกว่า “กลากแมว”


เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยมาก ทั้งในลูกแมวและแมวโต โดยเฉพาะในช่วงอากาศชื้นหรือฝนตกบ่อย ๆ เชื้อราประเภทนี้ไม่ได้เพียงทำให้แมวมีอาการคัน ขนร่วง ผิวลอกเท่านั้น แต่ยังสามารถแพร่สู่คนในบ้านได้อีกด้วย

บทความนี้ โรงพยาบาลสัตว์ยูเว็ท จะพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกท่าน มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเชื้อราในแมว ตั้งแต่สาเหตุ อาการ การรักษา ไปจนถึงวิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก


🧫 เชื้อราแมวเกิดจากอะไร?


สาเหตุหลักของการที่แมวติดเชื้อรา มักเกิดจาก “ความชื้น” และ “การสะสมของเชื้อราในสิ่งแวดล้อม” เช่น


  • หลังอาบน้ำแล้วขนไม่แห้งสนิท

  • เดินเล่นบนพื้นดินหรือพื้นหญ้าที่เปียก แล้วไม่ได้ทำความสะอาด

  • ที่อยู่อาศัยมีเชื้อรา มีความชื้น หรือมีการระบายอากาศไม่ดี

นอกจากนี้ หากแมวของคุณไปสัมผัสหรือเล่นกับแมวตัวอื่นที่ติดเชื้อ ก็สามารถติดเชื้อราได้ง่ายผ่านการสัมผัสผิวหนังหรือขน


กลุ่มแมวที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ลูกแมว, แมวสูงอายุ, หรือแมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจากโรคประจำตัว เช่น เอดส์แมว (FIV) , ลิวคีเมียในแมว (FeLV) เพราะร่างกายจะต่อสู้กับเชื้อราได้ยากกว่าปกติ


🦠 เชื้อราที่พบบ่อยในแมว


ชนิดของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังในแมวมีอยู่หลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่


  • Microsporum canis (พบมากที่สุดในแมวบ้าน)

  • Microsporum gypseum

  • Trichophyton mentagrophytes


เชื้อราเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในชั้นนอกของผิวหนัง เส้นขน และเล็บ โดยใช้ เคอราติน (keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนในผิวหนังและขน เป็นแหล่งอาหารในการเจริญเติบโต


🔍 วิธีสังเกตอาการว่าแมวเป็นเชื้อรา


เจ้าของสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ด้วยตาเปล่า หากแมวมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์

  • ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ

  • มีผื่นแดงหรือตุ่มเล็ก ๆ บนผิวหนัง

  • ผิวแห้ง ลอก เป็นขุยคล้ายรังแค

  • มีสะเก็ดหรือคราบบริเวณใบหน้า หู หรือขา


หากปล่อยไว้ไม่รักษา เชื้อราจะลุกลามไปยังบริเวณอื่นของร่างกายได้ง่าย


👩‍⚕️ โรคเชื้อราแมวสามารถติดต่อถึงคนได้!


เชื้อราแมวจัดเป็นโรคที่ “ติดต่อสู่คน” ได้โดยตรงผ่านการสัมผัส โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ


อาการของคนที่ติดเชื้อราแมว ได้แก่


  • ผื่นแดงเป็นวง ๆ ขอบนูน

  • มีอาการคันและลอกเป็นขุย

  • ผมร่วงเป็นหย่อมหากติดที่หนังศีรษะ

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาทันที


การรักษาเชื้อราในแมว💊


ใช้หลากหลายวิธีร่วมกันโดยจะแบ่งเป็น 3 วิธีหลักๆ


  1. การใช้ยาเฉพาะที่ เช่น สเปรย์ หรือ ยาทาฆ่าเชื้อรา, แชมพูยาฆ่าเชื้อรา เป็นต้น โดยการเลือกใช้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงการกระจายตัวของโรคและสุขภาพและความสามารถในการบริหารยาของผู้ปกครองสัตว์

  2. การใช้ยารูปแบบการกิน โดยชนิดของยาที่ให้ ขนาดยา และความถี่ในการกินขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและสุขภาพของสัตว์เนื่องจากยาฆ่าเชื้อราบางชนิดสามารถทำให้เกิดความเป็นพิษต่อตับได้

  3. การทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อราแมวนั้นสามารถแพร่กระจายไปในบริเวณที่แมวอยู่ เช่น เบาะนอน ผ้า พรม พื้นที่อยู่ กรง เป็นต้น โดยทำความสะอาดโดยการเช็ดถูหรือซัก โดยควรทำความสะอาดอย่าสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง


วิธีป้องกันไม่ให้เชื้อราแมวกลับมาเป็นซ้ำ🧺 


  • อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง

  • ทำความสะอาดบ้านและอุปกรณ์แมว เช่น ที่นอน แปรง และกระบะทราย ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา

  • หมั่นล้างมือก่อน และหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง

  • หลีกเลี่ยงการพาแมวออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น

  • ลดความเครียดของแมว เพราะความเครียดจะทำให้ภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้ติดเชื้อได้ง่าย


คำถามที่พบบ่อย❓ 


Q : แมวเป็นเชื้อราใช้เวลารักษานานไหม?


 A : โดยทั่วไปแมวโตที่ได้รับยาฆ่าเชื้อรา ใช้เวลารักษาประมาณ 1 - 2 เดือน ส่วนลูกแมวอาจใช้เวลานานถึง 3 - 4 เดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแมวแต่ละตัวด้วย


Q : โรคเชื้อราแมวอันตรายไหม?


A : ไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต แต่หากปล่อยทิ้งไว้ เชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายและสามารถติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ ทำให้การรักษานั้นยากขึ้นใช้เวลานานขึ้น  รวมถึงเชื้อราแมวนั้นสามารถติดต่อสู่คนได้


Q : ลูกแมวเป็นเชื้อราอาบน้ำได้ไหม?


A : อาบน้ำได้โดยใช้แชมพูฆ่าเชื้อราแบบเจือจาง 1:5 - 1:10 ฟอกทิ้งไว้ 5 - 10 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและต้องเช็ดขนให้แห้งสนิททุกครั้ง


Q : “ยาม่วง” ใช้รักษาเชื้อราแมวได้ไหม?

 

A : ยาม่วงหรือเจนเชียน ไวโอเลต (Gentian violet) ไม่แนะนำ เพราะยาม่วงปัจจุบันไม่ได้นำมาใช้รักษาผิวหนังเเล้วแม้ว่าจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อได้ เเต่ก็ทำให้ผิวหนังระคายเคือง อักเสบและทำให้แผลหายได้ช้าลง นอกจากนี้ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย


Q : ค่ารักษาเชื้อราแมวราคาเท่าไหร่?


A : โรงพยาบาลสัตว์แอทโมสมีบริการตรวจและรักษาโรคเชื้อราแมว โดยราคาค่ารักษาเริ่มต้นประมาณ 1,000 - 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาการรักษา  


🩺 บทสรุปของเจ้าเชื้อราแมว


เชื้อราในแมว เป็นโรคผิวหนังที่รักษาได้ แต่ต้องอาศัยเวลาและความต่อเนื่องในการดูแล การรักษาความสะอาดทั้งตัวแมวและสภาพแวดล้อมถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคนี้

หากเจ้าของพบว่าน้องแมวมีขนร่วงเป็นหย่อม หรือมีผื่นแดง ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง จะได้ช่วยให้น้องแมวกลับมามีผิวสุขภาพดี และไม่ต้องเจอกับเชื้อราอีกครั้ง





 
 
 
bottom of page