top of page
Search

วิธีดูแลแมวเป็นเชื้อรา รู้ทันสาเหตุ อาการ การรักษา และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

แนะนำวิธีป้องกันไม่ให้แมวกลับมาเป็นเชื้อราอีก เช่น อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิท หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดบ้าน ลดความเครียดของแมว และหลีกเลี่ยงการพาออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น
แนะนำวิธีป้องกันไม่ให้แมวกลับมาเป็นเชื้อราอีก เช่น อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิท หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดบ้าน ลดความเครียดของแมว และหลีกเลี่ยงการพาออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น

วิธีดูแลแมวเป็นเชื้อรา ที่เจ้าของควรรู้ไว้ก่อน


“โรคเชื้อราแมว” หรือที่หลายคนเรียกว่า “กลากแมว”


เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยมาก ทั้งในลูกแมวและแมวโต โดยเฉพาะในช่วงอากาศชื้นหรือฝนตกบ่อย ๆ เชื้อราประเภทนี้ไม่ได้เพียงทำให้แมวมีอาการคัน ขนร่วง ผิวลอกเท่านั้น แต่ยังสามารถแพร่สู่คนในบ้านได้อีกด้วย

บทความนี้ โรงพยาบาลสัตว์ยูเว็ท จะพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกท่าน มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเชื้อราในแมว ตั้งแต่สาเหตุ อาการ การรักษา ไปจนถึงวิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก


🧫 เชื้อราแมวเกิดจากอะไร?


สาเหตุหลักของการที่แมวติดเชื้อรา มักเกิดจาก “ความชื้น” และ “การสะสมของเชื้อราในสิ่งแวดล้อม” เช่น


  • หลังอาบน้ำแล้วขนไม่แห้งสนิท

  • เดินเล่นบนพื้นดินหรือพื้นหญ้าที่เปียก แล้วไม่ได้ทำความสะอาด

  • ที่อยู่อาศัยมีเชื้อรา มีความชื้น หรือมีการระบายอากาศไม่ดี

นอกจากนี้ หากแมวของคุณไปสัมผัสหรือเล่นกับแมวตัวอื่นที่ติดเชื้อ ก็สามารถติดเชื้อราได้ง่ายผ่านการสัมผัสผิวหนังหรือขน


กลุ่มแมวที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ลูกแมว, แมวสูงอายุ, หรือแมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจากโรคประจำตัว เช่น เอดส์แมว (FIV) , ลิวคีเมียในแมว (FeLV) เพราะร่างกายจะต่อสู้กับเชื้อราได้ยากกว่าปกติ


🦠 เชื้อราที่พบบ่อยในแมว


ชนิดของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังในแมวมีอยู่หลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่


  • Microsporum canis (พบมากที่สุดในแมวบ้าน)

  • Microsporum gypseum

  • Trichophyton mentagrophytes


เชื้อราเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในชั้นนอกของผิวหนัง เส้นขน และเล็บ โดยใช้ เคอราติน (keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนในผิวหนังและขน เป็นแหล่งอาหารในการเจริญเติบโต


🔍 วิธีสังเกตอาการว่าแมวเป็นเชื้อรา


เจ้าของสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ด้วยตาเปล่า หากแมวมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์

  • ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ

  • มีผื่นแดงหรือตุ่มเล็ก ๆ บนผิวหนัง

  • ผิวแห้ง ลอก เป็นขุยคล้ายรังแค

  • มีสะเก็ดหรือคราบบริเวณใบหน้า หู หรือขา


หากปล่อยไว้ไม่รักษา เชื้อราจะลุกลามไปยังบริเวณอื่นของร่างกายได้ง่าย


👩‍⚕️ โรคเชื้อราแมวสามารถติดต่อถึงคนได้!


เชื้อราแมวจัดเป็นโรคที่ “ติดต่อสู่คน” ได้โดยตรงผ่านการสัมผัส โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ


อาการของคนที่ติดเชื้อราแมว ได้แก่


  • ผื่นแดงเป็นวง ๆ ขอบนูน

  • มีอาการคันและลอกเป็นขุย

  • ผมร่วงเป็นหย่อมหากติดที่หนังศีรษะ

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาทันที


การรักษาเชื้อราในแมว💊


ใช้หลากหลายวิธีร่วมกันโดยจะแบ่งเป็น 3 วิธีหลักๆ


  1. การใช้ยาเฉพาะที่ เช่น สเปรย์ หรือ ยาทาฆ่าเชื้อรา, แชมพูยาฆ่าเชื้อรา เป็นต้น โดยการเลือกใช้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงการกระจายตัวของโรคและสุขภาพและความสามารถในการบริหารยาของผู้ปกครองสัตว์

  2. การใช้ยารูปแบบการกิน โดยชนิดของยาที่ให้ ขนาดยา และความถี่ในการกินขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและสุขภาพของสัตว์เนื่องจากยาฆ่าเชื้อราบางชนิดสามารถทำให้เกิดความเป็นพิษต่อตับได้

  3. การทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อราแมวนั้นสามารถแพร่กระจายไปในบริเวณที่แมวอยู่ เช่น เบาะนอน ผ้า พรม พื้นที่อยู่ กรง เป็นต้น โดยทำความสะอาดโดยการเช็ดถูหรือซัก โดยควรทำความสะอาดอย่าสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง


วิธีป้องกันไม่ให้เชื้อราแมวกลับมาเป็นซ้ำ🧺 


  • อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง

  • ทำความสะอาดบ้านและอุปกรณ์แมว เช่น ที่นอน แปรง และกระบะทราย ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา

  • หมั่นล้างมือก่อน และหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง

  • หลีกเลี่ยงการพาแมวออกนอกบ้านในช่วงอากาศชื้น

  • ลดความเครียดของแมว เพราะความเครียดจะทำให้ภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้ติดเชื้อได้ง่าย


คำถามที่พบบ่อย❓ 


Q : แมวเป็นเชื้อราใช้เวลารักษานานไหม?


 A : โดยทั่วไปแมวโตที่ได้รับยาฆ่าเชื้อรา ใช้เวลารักษาประมาณ 1 - 2 เดือน ส่วนลูกแมวอาจใช้เวลานานถึง 3 - 4 เดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแมวแต่ละตัวด้วย


Q : โรคเชื้อราแมวอันตรายไหม?


A : ไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต แต่หากปล่อยทิ้งไว้ เชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายและสามารถติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ ทำให้การรักษานั้นยากขึ้นใช้เวลานานขึ้น  รวมถึงเชื้อราแมวนั้นสามารถติดต่อสู่คนได้


Q : ลูกแมวเป็นเชื้อราอาบน้ำได้ไหม?


A : อาบน้ำได้โดยใช้แชมพูฆ่าเชื้อราแบบเจือจาง 1:5 - 1:10 ฟอกทิ้งไว้ 5 - 10 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและต้องเช็ดขนให้แห้งสนิททุกครั้ง


Q : “ยาม่วง” ใช้รักษาเชื้อราแมวได้ไหม?

 

A : ยาม่วงหรือเจนเชียน ไวโอเลต (Gentian violet) ไม่แนะนำ เพราะยาม่วงปัจจุบันไม่ได้นำมาใช้รักษาผิวหนังเเล้วแม้ว่าจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อได้ เเต่ก็ทำให้ผิวหนังระคายเคือง อักเสบและทำให้แผลหายได้ช้าลง นอกจากนี้ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย


Q : ค่ารักษาเชื้อราแมวราคาเท่าไหร่?


A : โรงพยาบาลสัตว์แอทโมสมีบริการตรวจและรักษาโรคเชื้อราแมว โดยราคาค่ารักษาเริ่มต้นประมาณ 1,000 - 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาการรักษา  


🩺 บทสรุปของเจ้าเชื้อราแมว


เชื้อราในแมว เป็นโรคผิวหนังที่รักษาได้ แต่ต้องอาศัยเวลาและความต่อเนื่องในการดูแล การรักษาความสะอาดทั้งตัวแมวและสภาพแวดล้อมถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคนี้

หากเจ้าของพบว่าน้องแมวมีขนร่วงเป็นหย่อม หรือมีผื่นแดง ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง จะได้ช่วยให้น้องแมวกลับมามีผิวสุขภาพดี และไม่ต้องเจอกับเชื้อราอีกครั้ง





 
 
 

Comments


bottom of page