🩺 การพักฟื้นหลังทำหมันน้องหมาและน้องแมว
- Admin UVET
- Nov 5
- 1 min read
การทำหมัน (Sterilization) เป็นหนึ่งในการผ่าตัดที่พบได้บ่อยที่สุดในสัตว์เลี้ยง เพราะป้องกันโรคทางระบบสืบพันธุ์ อาจช่วยลดปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างได้ แต่การดูแลช่วงพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดทำหมัน มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากดูแลไม่ถูกวิธี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลบวมอักเสบ แผลแตกไม่สมานกัน อาจจะติดเชื้อ นำไปสู่การหายของแผลที่ช้าลงได้
🐶🐱 จุดสังเกตบริเวณแผลผ่าตัดทำหมัน
น้องหมาเพศผู้ / น้องแมวเพศผู้
ทำหมันแบบตอนอัณฑะออก
แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณถุงอัณฑะในแมวและหน้าถุงอัณฑะในสุนัข
แผลมีขนาดเล็กและฟื้นตัวได้เร็ว
ส่วนมากแผลจะปิดสนิทภายใน 7-10 วัน
อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในวันแรก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
น้องหมาเพศเมีย / น้องแมวเพศเมีย
ผ่าตัดเอารังไข่และมดลูกออก
เป็นการผ่าตัดใหญ่กว่า เพราะต้องเปิดช่องท้อง
แผลปิดสนิทภายใน 5-7 วัน เช่นเดียวกับเพศผู้แต่มีความเสี่ยงในการอักเสบ หรือแผลแตกมากกว่าเพศผู้
ต้องดูแลเรื่องความสะอาดของแผล และจำกัดการเคลื่อนไหวมากกว่าเพศผู้
📅 ก่อนรับกลับจากโรงพยาบาลสัตว์ควรสังเกตอะไรบ้าง?
หลังการผ่าตัดทำหมันเสร็จ สัตวแพทย์จะให้พักฟื้นในโรงพยาบาลจนกว่าน้องจะฟื้นจากยาสลบดีแล้วจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ก่อนออกจากโรงพยาบาลสัตวแพทย์จะตรวจอาการน้อง ดังนี้
ระดับการตอบสนองและท่าทางของน้อง โดยน้องจะต้องสามารถนั่งหมอบได้ สามารถตอบสนองต่อการเรียกได้
การหายใจควรเป็นจังหวะสม่ำเสมอ อัตราการหายใจปกติ ไม่มีเสียงปอดหรือการหายใจที่ผิดปกติ
อุณหภูมิร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผ้าพันแผลแห้ง ไม่มีเลือดซึม

คำแนะนำการดูแลสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลังรับกลับบ้าน
วันแรก (หลังผ่าตัด – 24 ชั่วโมงแรก)
น้องอาจยังมึนจากยาสลบ เดินเซ ไม่อยากกินอาหาร และน้ำ ไม่ควรบังคับให้น้องกินน้ำหรืออาหารเพราะอาจจะสำลักได้ ให้น้องพักในที่อบอุ่น ปลอดภัย
สังเกตอาการหากน้องสามารถตั้งตัวนั่งได้ สามารถเปลี่ยนหรือขยับท่าทางเองได้ ไม่ซึมคอตก แปลว่าเริ่มหายจากอาการมึนยาสลบแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่ ตั้งชามน้ำ เพื่อให้น้องทาน
หากน้องไม่ยอมทานน้ำ ใช้ไซริงก์ดูดน้ำสะอาดจากนั้นค่อยๆ หยอดเข้าข้างกระพุ้งแก้มทีละน้อย แต่ไม่ควรบังคับกรอกน้ำแรงๆ เพราะสามารถทำให้สำลักได้
เริ่มให้อาหารปกติโดยลดปริมาณลงเหลือ 25% จากที่เคยกิน
สามารถช่วยป้อนอาหารทีละน้อยด้วยไซริงก์ได้ โดยควรเลือกอาหารเปียกที่เนื้อละเอียด ไม่ควรป้อนแรงหรือเปิดปากบังคับ เพราะอาจทำให้น้องสำลักได้
หมั่นสังเกต ห้ามให้น้องเลียแผล ต้องใส่ปลอกคอกันเลีย (collar) ตั้งแต่วันแรกและใส่ตลอดเวลา จนกว่าแผลจะหายสนิทหรือจนถึงวันตัดไหม (ประมาณ 10–14 วัน) เพราะหากน้องเลียแผลอาจทำให้แผลอักเสบติดเชื้อหรือแผลแตกต้องเย็บซ้ำ หากน้องมีอาการแพ้ปลอกคอพลาสติก สามารถเลือกใส่ปลอกคอนิ่มหรือเสื้อกันเลียแทนได้ แต่ควรให้สัตวแพทย์ประเมินก่อนว่าเหมาะกับตำแหน่งแผลหรือไม่
วันที่ 2–3
ตรวจดูผ้าพันแผล (ไม่ต้องแกะผ้าพันแผล) และอาการของน้อง
ตรวจสอบว่าผ้าพันแผลยังแปะอยู่ที่ตำแหน่งดี ไม่มีสกปรก ไม่มีของเหลว เลือดซึมออกมาจากแผล จนเห็นได้ที่ผ้าพันแผล หากมีควรพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์เพื่อตรวจแผลผ่าตัด
ในส่วนของแมวเพศผู้มักจะไม่แปะแผล เนื่องจากผิวหนังอัณฑะของแมวนั้นบางอาจระคายเคืองได้ ให้สังเกต ว่าแผลนั้นมีเลือดหรือของเหลวซึมออกมามากหรือไม่ หากแผลสกปรกสามารถใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดได้
จำกัดบริเวณ เนื่องจาก การเดิน วิ่ง หรือกระโดดอาจจะส่งผลให้แผลผ่าตัดอักเสบหรือแตกได้
ใส่ปลอกคอกันเลียอยู่เสมอ
ป้อนยาลดอักเสบและยาฆ่าเชื้อตามที่สัตวแพทย์ระบุอย่างเคร่งครัด
หากน้องมีอาการยังมีอาการ ซึม เบื่ออาหาร หรือไม่ค่อยทานน้ำในช่วงนี้ ควรพาน้องไปปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการ
วันที่ 4–7
แผลโดยรวมจะเริ่มแห้งและปิดมากขึ้น โดยเฉพาะในเพศผู้
หากเป็นเพศเมีย ยังต้องใส่ใจเรื่องการจำกัดบริเวณเนื่องจากแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้องยังไม่สมานดี การวิ่ง กระโดด ขยับตัวมากๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของแผลที่อาจปริแตกได้
พาน้องไปตรวจแผลผ่าตัดครั้งที่1 ตามนัดหมาย เพื่อตรวจการหายของแผลว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่
ให้ยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องตามที่สัตวแพทย์ระบุจนยาหมด
วันที่ 8–14
โดยเฉลี่ยแล้วแผลของน้องๆ จะเริ่มสมานในช่วงเวลานี้ จึงมีการนัดตรวจแผลผ่าตัดครั้งที่สองเพื่อประเมินว่าสามารถตัดไหมได้หรือไม่ (หากไม่ได้ใช้ไหมละลาย)
ไม่จำเป็นต้องจำกัดบริเวณแล้วแต่ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากๆ เช่น การวิ่ง การกระโดด ไปอีกประมาณ 1 เดือน
⚠️ ข้อควรระวัง
หากพบอาการเหล่านี้ ให้รีบพาน้องกลับพบสัตวแพทย์ทันที
แผลบวมแดงมาก มีเลือดหรือของเหลวไหลออกมาจากแผล
ผิวหนังรอบๆ แผลผ่าตัดบวมแดง ช้ำ หรือพบห้อเลือดขยาดตัวขึ้น
น้องมีไข้ ซึม ไม่ยอมกินอาหาร
มีกลิ่นเหม็นจากแผล หรือแผลแตก
อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง




Comments